พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก ควรเลื่อนเวลานัดถ่ายออกไปหรือไม่?
วันที่ตีพิมพ์: 16 มกราคม 2564 ถ้าคุณถามว่า:
"— ถ้าดูเหมือนฝนจะตก ควรเลื่อนเวลานัดถ่ายออกไปหรือไม่?'"
คำตอบสั้นๆคือ:
"— ไม่".
แต่เนื่องจากมันเป็นคำถามที่ผมพบบ่อยมาก ผมจึงขออธิบายไว้ตรงนี้
ในฐานะช่างภาพมืออาชีพ ผมติดตามพยากรณ์อากาศอยู่เสมอ ใน 5 ปีที่ผมมาอยู่ที่เกาะสมุย (นับถอยหลังจากปี 2562) ผมได้ทดลองใช้พยากรณ์อากาศกว่า 10 เว็บไซต์ และ 15 แอปพลิเคชัน แต่ไม่มีแหล่งไหนเลยที่พยากรณ์ได้แม่นยำมากพอ
ดังนั้นผมขอให้คุณ:
อย่าเชื่อพยากรณ์อากาศบนเกาะสมุย
มันเชื่อถือไม่ได้ ไม่มีอะไรที่คาดการณ์ล่วงหน้าได้บนเกาะนี้
การคาดเดาสภาพอากาศบนเกาะเล็กๆท่ามกลางมหาสมุทร มันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก
มีแผนอย่างไร?
โดยปกติแล้วผมจะดูตามสถานการณ์จริงในวันนัด หากมีโอกาสสูงที่ฝนจะตก ผมจะเลื่อนเวลานัดให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะเผื่อเวลารอฝนหยุดตกระหว่างการถ่ายทำ และนั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ผมทำได้
ถ้าท้องฟ้ามืดครึ้ม ภาพจะออกมาสวยหรือไม่?
ฟ้าใสกับฟ้ามืดให้ความรู้สึกต่างกัน ดังนั้นแนวทางการถ่ายรูปจึงต่างกันไปด้วย สภาพอากาศทุกแบบมีทั้งข้อดีและข้อเสีย วันฟ้าใสจะมีแสงมากทำให้ภาพดูสว่างและมีเงาชัดเจน น้ำทะเลจะเป็นสีครามสดใส แต่มันจะร้อนมาก และคุณจะหรี่ตาเพราะความจ้าของแสง ในขณะที่วันที่ฟ้ามืดครึ้มจะถ่ายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเหงื่อ เครื่องสำอาง เสื้อผ้าที่เปียกเหงื่อ และการเปิดตาให้กว้าง แน่นอนว่าสีของรูปจะดูอ่อนและสลัว แต่ขณะเดียวกันท้องฟ้าก็จะดูน่าตื่นเต้นมากกว่า
สภาพแวดล้อมในเขตร้อน ชายหาด และมหาสมุทร ล้วนเป็นเสน่ห์อันดับต้นๆของเกาะสมุย และเสน่ห์เหล่านี้ก็ยังคงอยู่ได้แม้ในเมฆฝน ยกเว้นอยู่หนึ่งกรณี นั่นคือฝนที่ตกหนักในช่วงเดือนพฤศจิกายน ในทุกปีจะมีช่วง 1-2 สัปดาห์ที่คุณจะไม่อยากออกไปไหน ซึ่งคุณจะ “อ๋อ” ทันทีที่ได้เห็นมัน
ตัวอย่างจากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอ
เรื่องที่ 1 ฝนตกช่วงเช้า ขอเปลี่ยนวันนัดถ่ายดีกว่า
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ผมเพิ่งมาอยู่ที่เกาะสมุยใหม่ๆ ผมมีนัดถ่ายภาพช่วงเย็น แต่ช่วงเช้ามีฝนตก ช่วงนั้นผมยังไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศของที่นี่มากนัก ผมจึงเชื่อพยากรณ์อากาศ และตัดสินใจเลื่อนนัดออกไป คุณคงเข้าใจความรู้สึกของผมที่ได้เห็นฝนหยุดในช่วงบ่าย และช่วงเย็นที่ฟ้าใสไร้ซึ่งเมฆฝนใดๆ ในขณะที่พยากรณ์อากาศยังคงบอกว่าฝนตกทั้งวันอยู่เลย และยิ่งตลกร้ายขึ้นไปอีกเมื่อวันต่อมา (วันนัดจริง) มีฝนตกหนักยิ่งกว่าวันแรก
เรื่องที่ 2 สภาพอากาศที่ต่างกันในสองเขต
วันนั้นผมตั้งใจจะไปเดินสำรวจอีกฝั่งหนึ่งของเกาะ ช่วงนั้นผมมาอยู่บนเกาะสมุยได้ร่วมครึ่งปีแล้ว ผมอาศัยอยู่ในเขตฉเวง และตั้งใจจะไปที่เขตลิปะน้อยกับเขตตลิ่งงามซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะ วันนั้นผมลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้าน ผมเดินสำรวจไปหลายชั่วโมง อากาศร้อนจนผิวเกือบไหม้ เมฆน้อยมาก ทำให้ผมคอแห้งมาก แต่ผมก็อดทนและกลับถึงบ้านในช่วงเย็น ผมจึงได้รู้ว่าในช่วง 5-6 ชั่วโมงที่ผมไม่อยู่บ้านนั้น มันเป็นเวลาที่มากพอที่จะทำให้ถนนเปียกชุ่ม มีน้ำขังเต็มไปหมด ผมได้มารู้ทีหลังว่าในช่วงที่ผมทนแดดทนร้อนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะนั้น ฝั่งบ้านผมมีฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงทีเดียว
เรื่องที่ 3 ฟ้าหลังฝนกับตะวันตกดิน
หลังจากที่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ 2 ปี และได้เห็นสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงจนคุ้นเคยไปกับมัน ดังนั้นผมจึงปฏิเสธการเลื่อนนัดลูกค้าด้วยเหตุผลนี้กว่า 90% วันนั้นเป็นวันฝนตก ผมออกไปรับลูกค้า ในขณะที่ฝนยังคงตกอยู่ตลอดการเดินทาง เมื่อไปถึงที่หมาย พวกเราต้องรอ 10-15 นาทีเพื่อให้ฝนหยุด แต่หลังจากนั้นการถ่ายภาพก็เป็นไปอย่างราบรื่น แสงอ่อนๆจากเมฆช่วยให้บรรยากาศดูดี และพวกเราก็ได้ชมตะวันตกดินด้วยกัน